รีสอร์ทบ้านริมอ่าวตั้งอยู่ริมปากแม่น้ำจันทบุรี ย่านที่เงียบสงบ แต่อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัด เช่น ชุมชนจันทบูร โบสถ์คริสต์ หาดแหลมสิงห์  นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจโดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการพักในที่เงียบ ๆ ห้องพักสวยมีสไตล์ ไม่มีแขกเดินพลุกพล่าน  ส่งเสียงสร้างความรำคาญ 

สถาปนิกออกแบบรีสอร์ทบ้านริมอ่าวได้สวย ผมเห็นครั้งแรกรู้สึกชอบสไตล์และรูปแบบอาคาร ที่ทำออกมาแนวโมเดิร์น เรียบ ๆ ง่าย ๆ แต่แฝงลูกเล่นและกลิ่นอายอดีตของสถาปัตยกรรม บ้านช่องของคนจันทบุรีในอดีต

อาคาร 2 ชั้นรูปตัวแอล “L”  แขนแต่ละข้างกางโอบสระบัวขนาดใหญ่ไว้ด้านหลังรีสอร์ท  พื้นที่บริเวณมุมฉากตรงกลางที่แขนทั้งสองข้างบรรจบกัน ถูกใช้เป็นล็อบบี้  โดยมีซุ้มครึ่งวงกลมขนาดใหญ่นำสายตาของเราไปที่สระบัว  สระว่ายน้ำและปากแม่น้ำจันทบุรีที่กว้างเหมือนทะเลสาบ

ใต้ซุ้มครึ่งวงกลมมีสวนน้ำและบ่อเลื้ยงปลาคาร์ฟ ในช่วงระหว่างรอเช็คอินแขกจะได้ยินเสียงน้ำไหลเบา ๆ มาจากน้ำพุ เสียงน้ำช่วยผ่อนคลายความอ่อนล้าหลังจากเที่ยวมาทั้งวัน  ผนังข้าง ๆ โต๊ะเช็คอินมีพระบรมรูปของในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ประดับอยู่ ศิลปินใช้เทคนิคการสร้างภาพโมเสกด้วยการเจาะรูเล็ก ๆ จำนวนมาก ทำให้พระบรมฉายาลักษณ์ดูสวยงามแปลกตา 

เมื่อเราหันหลังให้โต๊ะเช็คอินมองไปสุดทางเดิน จะเห็นรูปปั้นของอาจารย์ ศิลป์ พีระศรี ตั้งอยู่ชิดกำแพง  ปกติเราจะไม่พบรูปปั้นอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ในโรงแรมบ่อยนัก เป็นไปได้ว่าเจ้าของบ้านริมอ่าวนับถืออาจารย์ ศิลป์ พีระศรี มาก

ดูจากการตกแต่งภายนอก  บ้านริมอ่าวเป็นรีสอร์ทที่น่าพัก โดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางที่ชอบความเงียบสงบ มีพื้นที่กว้าง มองออกไปได้ไกลสุดตา โดยไม่มีอาคารอื่นมาบดบังสายตา

ห้องพัก

ผมพักห้อง 2015 อยู่ชั้นที่หนึ่ง ด้านเดียวกับรูปปั้นอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ห้องนี้เป็นห้องที่มีเตียงเดี่ยวตั้งอยู่ 2 ตัว ทำให้รู้สึกโล่งใจขึ้นมานิดหนึ่ง เพราะผมใช้ห้องพักร่วมกับเพื่อนนักข่าวอีกคนหนึ่ง 

ห้องพักมีขนาดใหญ่กว่าห้องมาตรฐานของโรงแรมทั่ว ๆ ไป พื้นปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้ ผนังสีขาวและน้ำตาลอ่อนสร้างความรู้สึกอบอุ่น สบาย ๆ มีแสงธรรมชาติส่องมาจากด้านหลังห้อง และมองเห็นสระบัวได้จากกลางห้องพัก ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ

การจัดวางและตกแต่งห้องเหมือนห้องพักโรงแรมทั่ว ๆ ไป ผนังด้านขวามือมีชั้นวางกระเป๋า มินิบาร์ โต๊ะแต่งหน้า เก้าอี้โซฟาวางชิดผนัง เรียงต่อ ๆ กันจนไปสุดที่ผนังหลังห้อง พื้นที่บนผนังเหนือโซฟามีรูปวาดสีน้ำแขวนประดับห้อง ทำให้ห้องมีมิติทางด้านศิลปะ ดูสวยงาม

เตียงเดี่ยว 2 ตัว ตั้งคู่กันแต่ไม่ติดกันจนเกินไป หัวเตียงหันไปทางประตูหน้าและห้องน้ำ ด้านหลังหัวเตียงมีโต๊ะทำงานสร้างความสะดวกสบายให้แขกที่ต้องการนั่งทำงานด้วยคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป

ผมใช้ห้องนี้ร่วมกับนักข่าวสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ขนาดของห้องที่กว้างขวาง มีรูปแบบการตกแต่งภายในที่ดูดีสบายตา ทำให้คนแปลกหน้า 2 คน พักอยู่ด้วยกันโดยไม่รู้สึกอึดอัด  ผมยกเคาน์เตอร์ที่หัวเตียงให้นักข่าวโทรทัศน์ใช้นั่งตัดต่องาน ส่วนผมนั่งทำงานที่โต๊ะแต่งหน้า เราไม่รู้สึกว่าห้องนี้คับแคบหรือสร้างความอึดอัด จริง ๆ แล้วยังมีพื้นที่ว่างอีกที่ปลายเตียง  เมื่อเปิดประตูบานใหญ่ด้านหลังห้องเราจะเห็นพื้นที่นอกชานยื่นออกไปหาสระบัว  แขกที่พักอยู่ในห้องสามารถเดินออกมานั่งด้านนอก สัมผัสลมทะเลที่พัดเข้ามาทางปากแม่น้ำ หรือนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินได้ในช่วงเวลาพลบค่ำ

ห้องน้ำ

ห้องน้ำอยู่ด้านหัวเตียง มีขนาดกว้างแต่ไม่มีอ่างอาบน้ำ พื้นที่เปียกล้อมด้วยผนังกระจกให้แขกยืนอาบน้ำโดยใช้ฝักบัวแบบธรรมดาและแบบเรนชาวเวอร์ที่ปล่อยน้ำไหลลงมาเหมือนน้ำฝน อ่างล้างหน้าเดี่ยวทำจากแก้วใส ๆ  มองดูเหมือนชามสลัดขนาดใหญ่ ก้นอ่างลึกทำให้น้ำไม่กระเด็นออกมาเลอะเทอะในขณะที่กำลังแปรงฟัน ข้อเสียของอ่างล้างหน้าที่เป็นกระจกใสคือ คราบสบู่และยาสีฟันจะติดให้เห็นง่าย

บ้านริมอ่าวจัดสบู่เหลวและยาสระผมไว้ในขวดแบบใช้เติมใหม่ได้

รีสอร์ทเลือกใช้โถสุขภัณฑ์คอตโต้แบบประหยัดน้ำ โดยหวังประโยชน์จากการลดปริมาณการใช้น้ำ แต่ผมสงสัยว่าโถสุขภัณฑ์คอตโต้รุ่นนี้มันเหมาะกับครัวเรือนมากกว่ารีสอร์ทหรือเปล่า เพราะมันบอบบางมาก รีสอร์ทรู้ว่าฝารองนั่งโถสุขภัณฑ์เสีย แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนอันใหม่ก่อนเปิดห้องให้แขกเข้าพัก ผมนั่งแล้วเสียว “เกมพลิก” มาก เพราะขณะนั่งปลดทุกข์ ฝารองนั่งของโถสุขภัณฑ์อาจหันมาทำร้าย ด้วยการหนีบก้นเอาดื้อ ๆ

อาหาร

โรงแรมให้บริการอาหารเช้าเวลา 7.30 น. เป็นต้นไป ซึ่งนับว่าเริ่มช้ากว่าโรงแรมทั่วไป คนที่ต้องออกจากโรงแรมแต่เช้าตรู่ หรือคนอย่างผมที่ตื่นเช้าจะต้องรอ 7.30 น. กว่าจะได้กินกาแฟ จริง ๆ แล้วบ้านริมอ่าวจัดกาแฟสำเร็จรูปไว้ให้ในห้องพักทุกห้อง แต่หลายคน (รวมทั้งผม) ไม่นับกาแฟทรีอินวันว่าเป็นกาแฟ

ช่วงระหว่างรออาหารเช้า ผมเดินเล่นรอบ ๆ รีสอร์ท สูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า เดินเลียบแนวตลิ่งไปเรื่อย ๆ พบคนตื่นเช้า 2 คน คนหนึ่งเป็นหญิงสาวอายุ 20 ต้น ๆ พาหมาพิทบูล เทอร์เรีย อ้วน ๆ 2 ตัว มาวิ่งออกกำลังกาย อีกคนหนึ่งเป็นเพื่อนร่วมทริปที่ตื่นขึ้นมาว่ายน้ำตอนเช้า ผมเลือกนั่งที่ม้านั่งใต้ต้นมะขามเทศ พอใจกับความเงียบและความสดชื่นยามเช้า ก่อนที่พนักงานประจำร้านอาหารจะเดินเข้ามาหาที่โต๊ะ

“ตอนนี้มีกาแฟร้อน ขนมปัง และน้ำผลไม้ พร้อมแล้ว แขกสามารถหยิบมารับประทานที่ม้านั่งหรือที่ไหนก็ได้ค่ะ” พนักงานหญิงเดินมาบอกว่ากาแฟพร้อมแล้ว

อาหารมื้อเช้า บ้านริมอ่าวจัดไว้แบบบุฟเฟ่ต์ มีอาหารให้เลือกน้อย ไข่ดาวทอดแล้ววางไว้ในถาด ไส้กรอกไก่ ปาท่องโก๋ ข้าวผัด และกับข้าวอีก 2 อย่าง นี่แสดงให้เห็นว่าเจ้าของโรงแรมใช้จินตนาการไปหมดแล้วกับการออกแบบและตกแต่งโรงแรม ทุ่มให้ความสวยงามของโรงแรม จนไม่มีจินตนาการหลงเหลือไว้ให้การจัดอาหารเช้า

บ้านริมอ่าวคงภูมิใจนำเสนออาหารเย็นมากกว่าอาหารเช้า

ในช่วงค่ำ รีสอร์ทจัดนักดนตรี 3 คน นั่งร้องเพลงเพราะ ๆ ให้ลูกค้าฟังบริเวณร้านอาหาร สร้างบรรยากาศแบบสวนอาหาร โต๊ะผมสั่งอาหารเย็นมาหลายจาน ทอดมันกุ้ง ยำปลากรอบใส่มะม่วง ปูนิ่มชุปแป้งทอด ต้มยำปลาหมึก รสชาติใช้ได้แต่ไม่ได้อร่อยมากจนอยากสั่งเพิ่ม จริง ๆ แล้ว ทอดมันเนื้อเหนียวเกินไป แม่ครัวมือคงหนักไปหน่อย คือหนักไปทางแป้งมากกว่ากุ้ง

ภาพรวม

บ้านริมอ่าวเป็นโรงแรมสวย มีสไตล์  น่าพัก แม้ว่าไม่หรูหราเหมือนโรงแรมแบรนด์ดัง แต่ถูกใจคนที่ต้องการพักผ่อนในที่เงียบ ๆ ต้องการตื่นเช้าออกมาเดินรับอากาศบริสุทธิ์ริมปากแม่น้ำจันทบุรี ได้มองทิวทัศน์ป่าโกงกางได้ไกลสุดตา นาน ๆ จะเห็นชาวบ้านแล่นเรือหางยาวผ่านมาทางโรงแรม ภาพเรือหางยาวตัดกับท้องน้ำเรียบเหมือนกระจก มองแล้วสบายตา รู้สึกสบายใจ ช่วยปลดปล่อยความวิตกกังวลและความเครียด ที่สะสมจากการทำงานได้ดีมาก นอกจากนี้ ด้านหน้าโรงแรมมีถนนขนาดเล็ก ไม่มีรถยนต์วิ่งพลุกพล่าน ถูกใจคนชอบปั่นจักรยานในช่วงเช้าหรือเวลาเย็น

เนื่องจากบ้านริมอ่าวไม่ใช่ที่พักแนว destination hotel ไม่มีสปาหรือกิจกรรมอื่น ๆ ให้แขกทำ นอกจากจักรยานให้เช่าปั่นสนุก ๆ ลัดเลาะไปตามชุมชนปากแม่น้ำจันทบุรี ดังนั้นบ้านริมอ่าวจึงเป็นเรือนแรม ที่พักระหว่างทาง เมื่อแขกกินอาหารเช้ากันอิ่มแล้ว ก็ทยอยเช็คเอ้าท์ พากันออกไปเที่ยว แหลมสิงห์ ชุมชนริมน้ำจันทบูร โบสถ์คริสต์ (อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล) คุกขี้ไก่ ตลาดพลอย ฯลฯ 

บ้านริมอ่าว

ราคา: เริ่มต้นที่ประมาณ 2000 บาท/คืน (ห้องดีลักซ์ เตียงเดี่ยว)

โทรศัพท์:  +66 81 575 8339

อีเมล: baanrimao@gmail.com

เว็บไซด์: https://baan-rim-ao-th.book.direct