อาหารปัญจาบมีรสชาติหลากหลาย เข้มข้นไปด้วยรสชาติจากนม เนย เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยเครื่องเทศและสมุนไพร ความเอร็ดอร่อยอยู่ระดับต้น ๆ ของอาหารอินเดีย ทำให้คนหลงใหลอาหารอินเดียบางคนลืมตัว เผลอดูดนิ้วบนโต๊ะอาหาร
นักเดินทางจำนวนมากดั้นด้นไปถึงรัฐปัญจาบ เพื่อจะได้ลิ้มรสแกงผักขมกับชีสก้อน ปรุงตามต้นตำรับครัวปัญจาบ ได้ดูดนิ้วเก็บทุกอณูของความอร่อยของไก่ย่างที่ปรุงกับเตาทันดูร์ แต่คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ นั้นโชคดีมาก เพียงแค่เดินทางไปร้านอาหาร “ปัญจาบ กริลล์” ในซอยสุขุมวิท 13 ก็ได้อิ่มอร่อยกับอาหารปัญจาบ ในบรรยากาศหรูหรา สบาย ๆ ไม่ต้องดิ้นรนไปถึงตอนเหนือของประเทศอินเดีย
ช่วงนี้ ปัญจาบ กริลล์ จัด “ซันเดย์ บรันช์” ช่วงสาย ๆ ของวันอาทิตย์ เอาใจแฟนอาหารอินเดีย ที่คิดถึงรสชาติเผ็ดร้อนของเครื่องเทศตามตำรับอินเดีย ในครั้งนี้ ปัญจาบ กริลล์จัดให้นั่งกินกันเพลิน ๆ ตั้งแต่เที่ยงถึงบ่าย 3 โมงเย็น ถือเป็น “มหากาพย์” บนโต๊ะอาหาร มีให้ลิ้มลองตั้งแต่พานีปูรี (Pani Puri) ของกินเล่น เคี้ยว เพลิน ๆ จนถึงอาหารปิ้งย่าง กินกับนาน นุ่ม ๆ หอม ๆ พ่อครัวนวดแป้งทำกันสด ๆ ก่อนอบในเตาอบทันดูร์
อาหารปัญจาบนั้นมีรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เกิดจากวัฒนธรรมการกินอยู่ที่สืบทอดกันมานาน
ครก สาก หม้อแกง และเตาอบทันดูร์ของปัญจาบเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ ผ่านสงคราม การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ความเชื่อ และศาสดาหลายองค์ ไม่น้อยกว่า 3,000 ปี
เล่ากันว่า ก่อนที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชและกองทัพโรมันจะเดินทัพผ่านมาทางตอนเหนือของประเทศอินเดียในช่วง 300 ปีก่อนคริสต์กาล ปัญจาบเป็นแคว้นที่อุดมสมบูรณ์ คนรู้จักทำการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ ทำฟาร์มปศุสัตว์ มีความรอบรู้และความก้าวหน้าในการเกษตร พอ ๆ กับคนในอาณาจักรเปอร์เซีย
นอกจากนี้ ปัญจาบยังอุดมไปด้วย นม เนย และชีสจากวัวควายที่เลี้ยงไว้ไถนา ด้วยต้นทุนทางอาหารและความหลากหลายทางวัฒนธรรมความเชื่อ ที่มีทั้งเปอร์เซีย ฮินดู ซิกข์ และอิสลาม ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามามีอิทธิพล สร้างกระแสความนิยมในครัวปัญจาบ อาหารจึงเต็มไปด้วยสีสัน หลากหลายมิติ หลากหลายรสชาติ มีให้เลือกกินได้ทั้งวัน ทั้งแบบอาหารมังสวิรัติ จนถึงเนื้อสัตว์ที่หมักเครื่องเทศและนมเนย ก่อนโยนไปปิ้งให้สุกในเตาอบทันดูร์
ลดความร้อนแรงของสุริยเทพด้วยลาสซี่ โยเกิร์ตปั่น
เราเดินทางมาถึง “ปัญจาบ กริลล์” ช่วงเที่ยงวัน ร้านอาหารอยู่ในซอยสุขุมวิท 13 ซึ่งเป็นย่านนานา หรือย่านอาหรับของกรุงเทพฯ ย่านนี้จะอบอวลไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศและสมุนไพร เนื่องจากมีร้านอาหารอาหรับ อินเดีย ตั้งอยู่ในตรอกซอย ที่เชื่อมถึงกันได้เหมือนใยแมงมุม มีนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีน อาหรับ อินเดีย และคนไทยเข้า ๆ ออก ๆ เหมือนลมหายใจของย่านนานา ส่วนใหญ่เข้ามาหาของอร่อย ๆ กินกัน
ปัญจาบ กริลล์ ตั้งอยู่ในโรงแรมเรดิสัน สวีท กรุงเทพ มีที่จอดรถสะดวกสบาย สามารถเดินเข้าร้านได้ 2 ทาง คือประตูใหญ่ด้านหน้า และประตูด้านข้างที่เชื่อมต่อกับโรงแรมเรดิสันฯ
บรรยากาศด้านในเย็นสบาย จนลืมว่าอุณหภูมิด้านนอกนั้นเกือบ 35 องศาเซลเซียส ร้านปัญจาบ กริลล์ตกแต่งร้านได้น่านั่ง ทันสมัย มีบาร์เครื่องดื่มขนาดใหญ่ตั้งเป็นเกาะอยู่กลางห้องอาหาร พนักงานหน้าบาร์แนะนำลาสซี่ (Lassi) เครื่องดื่มยอดนิยมของอินเดียให้คนที่เข้ามากินอาหาร
ลาสซี่เป็นสัญลักษณ์ของฤดูร้อนในอินเดีย ถ้าเราสั่งกินในอินเดีย ลาสซี่แท้ ๆ แบบ “authentic” ต้องมีแมลงวันตอมก้อนน้ำแข็ง ผสมขี้มือแขกเค็ม ๆ เพื่อตัดหวาน แต่เพิ่มความกังวล ว่าเราจะพาร่างกายไปถึงห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดได้ทันเวลาหรือเปล่า
นักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันยื่นต่อแถวกับคนอินเดีย จิตใจจดจ่อ นึกถึงเนื้อเนียน ๆ นุ่ม ๆ เย็น ๆ ของโยเกิร์ตปั่นกับน้ำแข็ง ความหวานจากมะม่วงและความหอมของสะระแหน่ ทำให้ลาสซี่เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในช่วงฤดูร้อน ครั้งสุดท้ายที่ผมกินลาสซี่ น่าจะที่ร้านอาหารริมถนนในเมืองลาฮอร์ (Lahore) ประเทศปากีสถาน
อย่างไรก็ตาม ลาสซี่ที่ร้านปัญจาบ กริลล์ ดูดี น่ากินกว่าที่ขายตามรถเข็นในอินเดียและปากีสถาน นอกจากโยเกิร์ตปั่น บาร์ของปัญจาบ กริลล์มีเบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้บริการอีกมากมาย นักกินนักดื่มสามารถจ่ายเพิ่ม (600 บาท/คน) สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบจัดเต็ม
คนปัญจาบชอบกินแกง กินกันเป็นอาหารหลัก ไม่ว่าจะมีอะไรอยู่ในครัว คนปัญจาบสามารถนำมาแกงกินได้หมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นถั่วแดง ถั่วเหลือง ใบไม้สาระพัด แกงใส่เครื่องเทศและเนยสด
ด้วยความที่คนปัญจาบชอบของมัน แกงบางหม้อต้องราดหน้าด้วยครีมข้น ๆ ในช่วงเวลาของซันเดย์บรันช์ ปัญจาบ กิลล์ เสิร์ฟแกงหลายแบบ ให้เรากินกับนานหรือข้าวบริยานี (ข้าวหุงเครื่องเทศหมกผัก/เนื้อสัตว์)
กาไดปานีร์ (Kadhai Paneer) แกงชีสสดใส่ผัก
เมติ มาไล มัตเตอร์ (Methi Malai Mutter) แกงใบฟีนูกรีก หรือลูกซัด (Methi Leaf) ใส่ถั่วลันเตา (mutter/matar) ราดด้วยครีมข้น (Malai)
แกงถั่ว (Dal Makhani) ซึ่งเป็นสูตรของปัญจาบ ใช้ถั่วสีเข้ม พวกถั่วแดง ถั่วเลนทิลเปลือกดำรสชาติเข้มข้นด้วยนมเนย เพิ่มความหอมมันด้วยโยเกิร์ต ก่อนราดหน้าด้วยครีมแบบเข้มข้น เทใส่กันเต็มหม้อ เพื่อให้เข้าถึงเนื้อแท้ของแกงปัญจาบ
เราสามารถสั่งโรตี หรือแผ่นนานหอม ๆ มากินกับแกงได้ พ่อครัวของปัญจาบ กริลล์ จะทำสด ๆ อบใส่ตะกร้า เมื่อเปิดผ้าที่ห่อนานออก เราจะได้กลิ่นหอมฟุ้งของแผ่นแป้งอบ ผมแนะนำนานรสกระเทียมชีส กลิ่นหอมของกระเทียมบวกกลิ่นแป้งโดนไฟ และรสเค็ม ๆ นัว ๆ ของชีส … ฮัดช่า !
ปัญจาบเป็นแหล่งปลูกข้าวสาลีที่สำคัญ จนคนอินเดียทั้งประเทศ ต่างพากับพยักพเยิด ส่ายหัว ส่ายคอ ยอมยกตำแหน่ง “ตะกร้าขนมปังของอินเดีย” ให้ปัญจาบ นอกจากนี้ ปัญจาบยังเป็นแหล่งปลูกข้าวบาสมาตีที่หอมอร่อยที่สุดในชมพูทวีป
ช่วง “ซันเดย์ บรันช์” ร้านอาหารปัญจาบ กริลล์ ทำข้าวบาสมาตีหมกให้กินกันหลายแบบ มีให้เลือกทั้งหมกแพะ หมกไก่ หมกกุ้ง ที่พิเศษสุด ๆ คือข้าวหมกผักล้วน เพื่อเอาใจคนกินมังสวิรัติ ที่หาข้าวหมกมังสวิรัติแท้ ๆ กินได้ยากมาก
ปัญจาบ กริลล์ เป็นร้านอาหารอินเดียที่ได้รับรางวัลมากมาย ได้รับคำชมจากนักท่องเที่ยว และผู้ที่ชื่นชอบอาหารอินเดีย ร้านอาหารเองได้ปรับสูตรอาหารปัญจาบให้มีรสชาติร่วมสมัย ดูสวยงามชวนกิน แต่ยังมีกลิ่นอายของอาหารอินเดีย
อาหารจานเด็ดของร้านปัญจาบ กริลล์ อีกอย่างหนึ่งคือจานปิ้งย่าง ซึ่งเป็นทีเด็ดของร้าน ไม่เช่นนั้นคงยกป้าย “Bunjab Grill” ออก
ในรายการของซันเดย์บรันช์ มีเนื้อแกะติดซี่โครงย่าง ไก่ย่างทันดูรี และกุ้งบาบีคิว ผมลองทุกอย่าง ชอบไก่ทันดูรีมากที่สุด รสชาติถูกปาก ส่วนกุ้งย่างนั้นเค็มเกินไปสำหรับผม สำหรับคนไทยที่ยังไม่ชินกับแกงตำรับอินเดีย ที่เนื้อแกงข้นๆ เหลวๆ น่าจะชอบอาหารปิ้งย่างของปัญจาบ กริลล์ เพราะกินง่าย กินอร่อย เต็มปากเต็มคำ
จากเที่ยงวันถึงบ่าย 3 โมง จากนานรสกระเทียมชีสถึงเนื้อซี่โครงแกะย่าง สลับกับพานีปูรี (Pani Puri) แป้งทอดกรอบ กินเป็นอาหารว่าง เราคุยกันตั้งแต่อรชุนในมหาภารตะไปจนเรื่องของหมา ๆ แมว ๆ และสรรเสริญเยินยอเพื่อนบ้าน
ในที่สุด มหากาพย์บนโต๊ะอาหารก็เดินทางมาถึงบทสุดท้ายกับของหวาน
อินเดียไม่เป็นรองใครในเรื่องขนมและของหวาน เนื่องจากผลิตน้ำตาลทรายได้เป็นที่แรกของโลก นม เนย มีไม่ขาด จัดหนักจัดเต็ม ในช่วงซันเดย์บรันช์ ปัญจาบ กริลล์ จัดของหวานไว้หลายรายการ เช่น กุหลาบจามุน ขนมหวานที่เดินทางเข้ามาสู่อินเดียพร้อม ๆ กับชาวเปอร์เซีย
อย่างไรก็ตาม “คูลฟี่” (kulfi) ของหวานเนื้อนุ่ม รสชาติหวานเย็นเหมือนไอศกรีม แต่มีกลิ่นเครื่องเทศที่แสดงตัวตนของอินเดีย ได้รับคะแนนนิยมสูงสุดจากโต๊ะเรา
ปัญจาบ กริลล์
โรงแรม เรดิสัน สวีท ถนนสุขุมวิท ซอย 13
+ เปิดทุกวัน สำหรับมื้อค่ำ (18.00 – 23.30 น.)
+ วันอาทิตย์ให้บริการ “ซันเดย์ บรันช์” (12.00 – 15.00 น.) ราคา 1,000 บาท/คน พร้อมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สามารถจ่ายเพิ่ม 600 บาท/คน สำหรับเบียร์และไวน์ ที่มีให้ดื่มตลอดเวลา
+ สอบถามเพิ่มเติม และสำรองที่นั่ง ที่เบอร์โทรศัพท์ (02) 645 4952 หรือที่เว็บไซด์ www.punjabgrillbangkok.com หรือ Facebook:
Panjabgrillbangkok