เซโดนา เครือโรงแรมที่มีชื่อเสียงด้านดีไซน์ที่ทันสมัยและบริการที่อบอุ่นเป็นกันเอง ประกาศเปิดตัว “เซโดนา สวีทส์ โฮจิมินห์ ซิตี้” ในต้นปี 2561 นี้
เซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์หรูใหม่ล่าสุดนี้ มีทั้งหมด 195 ห้อง จะเป็นส่วนของแกรนด์ ทาวเวอร์ ซึ่งเริ่มจากบริเวณชั้น 28 ถึง 42 ของอาคารไซ่ง่อน เซ็นเตอร์ ทาวเวอร์ 2 ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของนครโฮจิมินห์ ซิตี้ ตัวอาคารออกแบบโดยบริษัท NBBJ จากนิวยอร์ค และออกแบบตกแต่งภายในโดยบริษัท DWP (Design Worldwide Partnership)
ห้องพักทุกห้องของเซโดนา สวีทส์ โฮจิมินห์ ซิตี้ออกแบบโดยเน้นความสวยงาม หรูหรา ตกแต่งอย่างทันสมัยด้วยวัสดุชั้นดี หากแต่ยังมีกลิ่นอายของความเป็นท้องถิ่น พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บวกกับทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองโฮจิมินห์ผ่านหน้าต่างขนาดใหญ่จากพื้นจรดเพดาน
เซโดนา สวีทส์ โฮจิมินห์ ซิตี้ มีห้องพักแบบสตูดิโอ และห้องพักขนาดหนึ่ง ถึง สามห้องนอน ไว้บริการสำหรับการเข้าพักระยะสั้นและระยะยาว การออกแบบอย่างเข้าใจผู้เข้าพักทำให้สามารถเลือกห้องพักแบบสตูดิโอควบคู่กับห้องพักขนาดสองหรือสามห้องนอนได้เช่นกันเพื่อให้ได้พื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 2,590,000++ ต่อคืน (เงินสกุลดองเวียดนาม) หรือประมาณ 3,700++ บาท
เซโดนา สวีทส์ โฮจิมินห์ ซิตี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกหรูหราครบครัน พร้อมบริการชั้นเลิศให้กับแขกทุกท่านที่มาพัก รวมถึงบริการคอนเซียร์จและระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงบริการซักรีด รูมเซอร์วิส บริการรถรับ-ส่งสนามบิน สระว่ายน้ำ เรสซิเดนส์ เลานจ์ ห้องอาหารบริการอาหารท้องถิ่น อาหารตะวันตก และอาหารสิงคโปร์ อาทิ ชาร์ ก๋วยเตี๋ยว หมี่ สยาม และข้าวมันไก่ นอกจากนี้ยังมีศูนย์การค้า Takashimaya ซึ่งเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีร้านค้า ร้านอาหารมากมายที่บริเวณชั้น 7 ของอาคารไซง่อน เซ็นเตอร์อีกด้วย
ด้วยตัวเลขด้านเศรษฐกิจที่เป็นผลบวกของเวียดนาม และการผ่อนปรนของกฎเกณฑ์ด้านวีซ่าในปีที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวของเวียดนามเติบโตอย่างมาก จากรายงานของสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก หรือ World Travel & Tourism Council (WTTC) แจ้งว่าเวียดนามมีตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP จากการท่องเที่ยวในปี 2560ืสูงถึง 207,798 พันล้านดองเวียดนาม หรือประมาณ 9.3 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 4.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ซึ่งในปี 2561 นี้คาดการณ์ว่าตัวเลขจะสูงขึ้นอีกจนถึง 7.5% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 398,329 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 17.0 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ) และตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไปจนถึงปี 2570 จะเพิ่มขึ้นถึง 6% ต่อปีคิดเป็นสัดส่วน 4.7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเลยทีเดียว