ฤดูฝนมาพร้อมกับความชุ่มฉ่ำ ความสดชื่น สีเขียวหลากหลายของใบไม้ อากาศหลังฝนตกสดชื่นที่สุด สูดหายใจลึก ๆ ยาว ๆ ให้เต็มปอดจะช่วยเพิ่มพลังชีวิตให้สามารถต่อสู้กับความเหนื่อยล้า กิจกรรมท่องเที่ยวที่นิยมกันช่วงฤดูฝนคือ การล่องแก่ง ผจญภัยบนเรือยางปล่อยให้สายน้ำพาเราไป ตื่นเต้น เปียกปอน ตกน้ำ หัวเราะกันสนุกสนาน ช่วงเวลาที่น้ำไหลลึก ไหลยาว ไหลนิ่ง เราก็สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติสองฝั่งน้ำ ป่าไผ่ นกป่า ดอกไม้ป่า สารพัดความงามตามธรรมชาติที่ไม่มีในเมืองใหญ่
เรามาดูกันว่า เราจะไปล่องแก่งที่ไหนกันได้บ้าง บางที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ขับรถแค่ 2 ชั่วโมงก็ได้ลงไปแช่น้ำแล้ว บางที่ต้องเข้าไปในป่าดิบลึกติดชายแดนไทย-ลาว ต้องนอนค้างคืน นอนฟังเสียงชะนีกล่อม ไม่มีไลน์ให้เล่น ไม่มีเฟสบุ๊คให้กดไลค์ กดแชร์
1ล่องแพยาง ห้วยน้ำว้า จังหวัดน่าน
ช่วงเวลาที่เหมาะสม: กันยายน – พฤศจิกายน
ล่องแก่งห้วยน้ำว้าคือประสบการณ์สุดยอดที่คนรักชีวิตกลางแจ้งต้องการสัมผัส การเดินทางบนสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก เปลี่ยนทางเดินได้ตลอดเวลา เป็นการเดินทางที่กระตุ้นต่อมผจญภัย ห้วยน้ำว้า หรือลำน้ำว้าเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำน่าน น้ำว้าเกิดขึ้นในป่าดิบเขาในจังหวัดน่าน ติดชายแดนประเทศไทย-ลาว ช่วงปลายฝนต้นหนาว ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการล่องแก่งน้ำว้า น้ำในห้วยจะเยอะและใสสะอาด นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เริ่มล่องแก่งกันที่โรงเรียนบ้านสบมาง อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นตอนกลางของแม่น้ำว้า เป็นช่วงที่น้ำแรง ไหลเชี่ยวกราก คดไปตามเกาะแก่ง บางช่วงไหลแรง ยาว ตรงๆ เกือบ 200 เมตร ก่อนที่จะเลี้ยวหักศอกกะทันหัน นักท่องเที่ยวที่ทนแรงเหวี่ยงไม่ไหว มีโอกาสที่จะตกเรือ ก่อนจะถูกสายน้ำพัดไปคาที่ฝั่ง เสน่ห์ของห้วยน้ำว้าคือความดิบ มีแก่งโหด ท้าทายนักเดินทาง ไม่ยอมให้ผ่านไปง่าย ๆ บางแก่งได้ยินชื่อแล้วขนหัวลุก เช่น แก่งผีป่า บางแก่งได้ยินแล้วนึกขำอย่างแก่งรถไฟเพราะจังหวัดน่านไม่มีรถไฟวิ่งผ่านสักขบวนแต่ดันตั้งชื่อแก่งในป่าลึกว่า แก่งรถไฟ ตลอดทั้งทริปนักท่องเที่ยวต้องรอนแรมอยู่ในป่าประมาณ 2 คืน ช่วงเวลาที่อยู่บนเรือยาง และเข้าที่พักริมห้วย นักท่องเที่ยวจะมีความสุขกับความเรียบง่าย เช่น อาบน้ำในห้วย นอนแช่น้ำ ก่อนขึ้นมากินอาหารง่าย ๆ ที่คนนำทางจัดให้ นั่งฟังนิทานข้างกองไฟ และหลับไปด้วยเสียงกล่อมของชะนีที่ร้องโหยหวนอยู่ในป่าลึก