หลวงพระบางมีอะไรให้เที่ยวบ้าง ถ้าเรามีเวลาแค่ 3 วัน เมืองเล็ก ๆ ริมแม่น้ำโขง ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศลาว ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก นักเดินทางหลายคนเดินทางมาหลวงพระบางเพื่อหลีกหนีจากเมืองใหญ่ ให้ไกลจากความวุ่นวาย อยากสัมผัสความใส ซื่อ และบริสุทธิ์ของหลวงพระบาง
เมืองหลวงพระบางตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศลาว เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้เคยเป็นราชธานีแห่งแรกของอาณาจักรล้านช้าง ทุกวันนี้ยังมีร่องรอยความรุ่งเรืองในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้ชม เช่น วัดเชียงทอง พระราชวังเจ้ามหาชีวิต
เมืองหลวงพระบางได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก มีวัดวาอารามเก่า ๆ และบ้านเรือนที่ผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก ระหว่างสถาปัตยกรรมลาวและสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล
ตัวเมืองตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำคานไหลมาจบกับแม่น้ำโขง หลวงพระบางเป็นเมืองที่เล็กมากเมื่อเทียบกับกรุงเทพมหานครหรือเมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะเดิน หรือไม่ก็ขี่จักรยานเที่ยวในเมืองหลวงพระบาง ชาวหลวงพระบางเองเป็นคนถ่อมตัว สุภาพและเป็นมิตรกับนักเดินทาง
เสน่ห์ของหลวงเมืองพระบาง คือ เวลา ทุกนาทีที่เมืองหลวงพระบางดูช้าๆ เนิบ ๆ เหมือนน้ำคานที่ค่อย ๆ ไหลลงน้ำโขง ช่วงระยะเวลา 3 วันในเมืองหลวงพระบาง เหมือนกับเวลา 3 เดือนในเมืองใหญ่ ๆ เราลองมาดูกันว่าถ้าเรามีเวลาประมาณ 36 ชั่วโมง ช่วงสุดสัปดาห์จากเย็นวันศุกร์ถึงบ่ายวันอาทิตย์ เราจะเที่ยวที่ไหนได้บ้างในเมืองเล็ก ๆ ริมแม่น้ำโขงแห่งนี้
วันศุกร์
19.00 นาฬิกา กินอาหารค่ำใต้ต้นมะม่วง
การเดินทางจากกรุงเทพฯไปหลวงพระบางใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียวเมื่อเดินทางด้วยเครื่องบิน ทุกวันนี้มีให้บริการทั้งสายการบินราคาถูกอย่างแอร์เอเชีย และสายการบินที่ให้บริการบางกอกแอร์เวย์ส เมื่อนักท่องเที่ยวบินมาถึงหลวงพระบางในเย็นวันศุกร์ ร้านอาหารที่แนะนำสำหรับมื้อแรกในหลวงพระบาง คือ ร้านอาหารทรี นากาส์ (3 Nagas) ที่ได้รับรางวัลจากการรีวิวของหลายสำนัก ร้านอาหารนี้เป็นบ้านลาวเก่าก่อนจะถูกตบแต่งใหม่ให้สวยหรูถูกจริตนักท่องเที่ยวที่ต้องการเสพทั้งรสชาติอาหารและความงดงามทางสถาปัตยกรรม ร้านอาหารทรี นากาส์มีอาหารขึ้นชื่อของหลวงพระบาง เช่น สลัดผักน้ำ ไคแผ่นทอดกรอบกินกับน้ำพริกแจ่วบอง วันไหนที่บรรยากาศดีฝนไม่ตกแนะนำให้จองที่นั่งกินข้าวใต้ต้นมะม่วงใหญ่จะได้บรรยากาศชิล ๆ เนิบ ๆ นุ่มนวลแบบหลวงพระบาง
21.00 นาฬิกา เดินเที่ยวตลาดกลางคืน
หลวงพระบางอาจจะเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ในหุบเขา แต่เมื่อถึงเวลาช้อปปิ้งหลวงพระบางมีของให้เลือกซื้อวางเรียงยาวเป็นกิโลเมตร มีตั้งแต่เสื้อยืด “Beer Lao” ที่เป็นของยอดนิยมของนักเดินทางวัยรุ่น ไปจนถึงงานศิลปะน่าสะสม ตลาดกลางคืนตั้งอยู่บนถนนเส้นหลักของหลวงพระบาง นักท่องเที่ยวเริ่มเดินได้ตั้งแต่หอพระบางจนถึงย่านร้านอาหารและเกสต์เฮาส์ ตลาดเปิดตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็น ก่อนตลาดจะเริ่มวายลงช่วง 5 ทุ่ม เมื่อ 10 ปีก่อนชาวบ้านในหลวงพระบางร่วมกับชาวเขาเอาของที่ระลึกวางขายบนผ้าปูกับพื้นดิน ปัจจุบันมีการนำหลังคาผ้าใบมากางเหมือนเต๊นท์ ทำให้ภาพลักษณ์ของเมืองเก่าสวย ๆ กลายเป็นตลาดนัดเปิดท้ายขายของไปเสีย น่าเสียดายจริง ๆ อย่างไรก็ตามตลาดกลางคืนก็ยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการหาซื้อของฝาก ของที่ระลึกจากหลวงพระบาง บางช่วงของตลาดมีร้านอาหาร ขายเครื่องดื่ม นักท่องเที่ยวที่ยังพักหลวงพระบางอีกหลายวัน หรือยังไม่อยากซื้อของ สามารถเข้าไปนั่งในร้านอาหาร สั่งเครื่องดื่ม แล้วนั่งดูวิถีชีวิตในหลวงพระบาง ดูนักท่องเที่ยวเดินปะปนไปกับคนลาวหลวงพระบาง ทำตัวเป็นพระยาน้อยชมตลาด
วันเสาร์
6 นาฬิกา – ตักบาตรข้าวเหนียว
วันที่สองในหลวงพระบางเป็นวันที่เรามีเวลาเต็ม ๆ ทั้งวัน (ทั้งคืน) ในเมืองสุดแสนจะน่ารักริมแม่น้ำโขง นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมาหลวงพระบางจะตื่นเช้าขึ้นมาตักบาตรข้าวเหนียว ใครมาหลวงพระบางแล้วไม่ได้ตักบาตร กลับบ้านไปอาจจะไปเล่าให้คนที่บ้านฟังไม่สนุก ทุก ๆ เช้าพระสงฆ์จำนวนกว่า 100 รูปจากวัด 30 กว่าแห่งในเมืองหลวงพระบาง จะเดินเป็นแถวออกมารับบิณฑบาตรจากชาวบ้านและนักท่องเที่ยว พระจะเดินแยกกันไปเป็นกลุ่ม ๆ ตามแต่ละวัด ส่วนชาวบ้านจะนั่งรอริมทาง พร้อมข้าวเหนียวที่นำมาใส่บาตร ชาวบ้านจะใส่แต่ข้าวเหนียว ส่วนขนมและกับข้าวนั้นชาวบ้านจะเอาปิ่นโตส่งตามไปที่วัดเมื่อพระกลับไปถึงวัดแล้ว เส้นทางที่นักท่องเที่ยวนิยมไปรอใส่บาตรข้าวเหนียวกันมากที่สุดคือ ถนนศรีสว่างวงศ์ที่เปิดเป็นตลาดกลางคืน เริ่มต้นจากหอพระบาง ยาวไปจนถึงริมแม่น้ำโขงทางด้านวัดเชียงทอง สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใส่บาตรตอนเช้าแนะนำว่าไม่ควรส่งเสียงดังโวยวาย หรือเอาแต่ถ่ายรูปเซลฟี่กันจนไม่สำรวม ไม่ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุด เอวลอยหรือเสื้อคว้านลึก การสวมเสื้อที่สุภาพกับกระโปรงยาวคลุมเข่าหรือกางเกงขายาวจะเป็นการให้เกียรติพระสงฆ์และคนหลวงพระบางมากที่สุด
7 นาฬิกา – อาหารเช้า
หลวงพระบางมีอาหารเช้ามากมายให้เลือกกิน 3 วันไม่ซ้ำกัน คอกาแฟและคอการเมืองอาจจะแวะไปที่ร้านประชานิยม ร้านนี้คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติเคยเขียนบทกวีชวนไปกินอาหารร้านนี้ ในร้านมีกาแฟร้อน รสชาติขมสุด ๆ หวานสุด ๆ ให้นักท่องเที่ยวกินกับขนมปังแบบฝรั่งเศสท่อนแข็ง ๆ ทาตับบด หรือจะเอาข้าวจี่อุ่น ๆ ก็มีให้เลือก นักท่องเที่ยววัยรุ่นอาจจะเดินผ่านร้านประชานิยม มองหาร้านเก๋ ๆ น่านั่งเพื่อถ่ายรูปอวดเพื่อนผ่านเฟสบุ๊ค ร้านกาแฟ Joma Bakery Cafe และร้าน Le Café Ban Vat Sene เป็นร้านสไตล์ตะวันตก สวย ๆ ชิล ๆ เหมือนนั่งอยู่เมืองสวย ๆ ที่ไหนสักที่ในยุโรป อาหารของหลวงพระบางได้รับอิทธิพลจากอาหารของฝรั่งเศสพอสมควร นักท่องเที่ยวที่ชอบกินขนมปัง หรือดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟ ร้านในหลวงพระบางมีให้เลือกลองหลายร้าน
9 นาฬิกา – จะเดิน หรือปั่นรถถีบก็ตามสะดวก
เมืองหลวงพระบาง ราชธานีแห่งแรกของอาณาจักรล้านช้าง เป็นเมืองเล็ก ๆ ตั้งอยู่ตรงพื้นที่สามเหลี่ยมที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง หลาย ๆ คนนึกถึงเมืองในหุบเขาในนิยายโรแมนติค เมืองที่แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เมืองที่มีเจ้าชายแต่งงานกับเจ้าหญิง แต่จริง ๆ แล้วเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งนี้มีการผสมผสานทางวัฒนธรรมเอเชียและวัฒนธรรมยุโรปให้เห็น สองข้างริมถนนศรีสว่างวงศ์เราจะเห็นบ้านปลูกตามสไตล์ฝรั่งยุคล่าอาณานิคม ชั้นล่างก่ออิฐถือปูนสีขาว ส่วนชั้นบนทำด้วยไม้ ข้าง ๆ กันเป็นวัด มีสิมหลังเล็ก ๆ ที่ไม่แสดงความโอ่อ่าอลังการ แต่แฝงให้เห็นความเรียบง่าย ความศรัทธา และความมุ่งมั่นที่มีต่อพุทธศาสนา นักท่องเที่ยวสามารถเดิน หรือปั่นจักรยานไปรอบ ๆ เมืองหลวงพระบาง สถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือ วัดเชียงทอง วัดวิซุน พระธาตุหมากโม หอพระบาง และพระราชวังเจ้ามหาชีวิต ซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าเข้าไปดูของสะสมในยุคที่ลาวยังปกครองด้วยระบบกษัตริย์
เที่ยง – ส้มตำเจ้ติ๋ม
ส้มตำอาจจะไม่ใช่อาหารประจำชาติลาวอย่างที่ใคร ๆ คิดกัน แต่ใครมาเที่ยวหลวงพระบางต้องกินส้มตำ ไม่อย่างงั้นกลับไปคุยให้เพื่อนฟังไม่สนุก ส้มตำแบบหลวงพระบางไม่เหมือนส้มตำที่เราสั่งกินกันข้างถนนที่เมืองไทย เส้นมะละกอไม่เหมือนกัน ของหลวงพระบางจะเป็นเส้นแบน ๆ เหมือนก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ของไทยเราจะสับมะละกอเหมือนก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก ลาวใส่กะปิในส้มตำ มีน้ำปู และน้ำปลาร้า ช่วยเพิ่มความนัว ใส่พริกเหมือนส้มตำที่เมืองไทยและอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ มีอยู่อย่างเดียวที่ใส่เหมือนกันทั้งลาวทั้งไทยคือ ผงชูรส ใครที่แพ้ผงชูรสให้เตือนแม่ค้าส้มตำด้วยว่าไม่ใส่ “แป้งนัว” ร้านส้มตำที่นักท่องเที่ยวไทยชอบไปกินกันคือร้านส้มตำเจ้ติ๋ม อยู่ข้าง ๆ วัดหนองสีคูนเมือง (Nong Sikhounmung) บนถนนคูนเสา (Kounxoua) เจ๊ติ๋มมีอาหารให้กินอยู่ไม่อย่าง แต่อร่อยทุกอย่าง จานเด็ดคือส้มตำ ตำลาว ตำแตง ตำมะละกอ รับรองอร่อยทั้งน้ำตา จานอื่น ๆ มี ไส้อั่ว ซี่โครงหมูทอด แล้วก็ แหนมหมูทอด กินกับเบียร์ลาวเย็นๆ แซ่บคัก
14 นาฬิกา – ข้ามโขงไปวัดจอมเพชร วัดไทยที่ถูกลืม
วัดจอมเพชรเป็นวัดที่สร้างอยู่บนเนินเขาริมแม่น้ำโขง อยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดเชียงทอง ปัจจุบันเป็นวัดร้าง ประวัติของวัดจอมเพชรไม่ชัดเจน แต่มีการพูดถึงวัดจอมเพชรจากนักเขียนสารคดีบางคนว่า วัดนี้คนไทยสร้างในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ครั้งที่หลวงพระบางยังอยู่ใต้การปกครองของประเทศสยาม วัดจอมเพชรถูกสร้างโดยกองทัพสยามครั้งที่ยกพลมาปราบจีนฮ่อ โดยการนำของเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี การเดินทางไปเที่ยววัดจอมเพชร นักท่องเที่ยวต้องเช่าเรือที่ท่าเรือริมวัดเชียงทอง เมื่อถึงฝั่งวัดจอมเพชรนักท่องเที่ยวต้องเดินขึ้นสะพานนาคที่ทอดยาวจากเนินทรายริมแม่น้ำโขงไปถึงยอดเขาที่ตั้งวัดจอมเพชร ในปัจจุบันวัดจอมเพชรขาดการบำรุงรักษา ไร้การซ่อมแซม อุโบสถที่ตั้งอยู่หน้าพระธาตุสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมอยุธยาตอนปลาย ฐานพระอุโบสถแอ่นโค้ง
18 นาฬิกา – ดูพระอาทิตย์ตกดินที่ยอดพูสี
ยอดเขาพูสีตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง ทางขึ้นยอดพูสีอยู่ข้าง ๆ ทางเข้าพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง นักท่องเที่ยวนิยมเดินขึ้นไปบนยอดพูสีเพื่อชมวิวแบบ 360 องศา เหนือเมืองหลวงพระบาง ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดคือยามเย็น พระอาทิตย์กำลังตกดิน มองดูแสงสีทองสาดส่องมาที่บ้านเรือนในหลวงพระบาง พระธาตุพูสีเปลี่ยนเป็นสีทองเหลืองอร่าม นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวหลวงพระบางควรจะได้มีโอกาสชมพระอาทิตย์ตกดินจากยอดพูสีสัก 1 ครั้ง เพื่อความทรงจำอันสวยงาม
19.30 นาฬิกา – อาหารฝรั่งเศสที่ร้านอาหาร L’Elephant
อิทธิพลของฝรั่งเศสยังมีให้เห็นในชีวิตประจำวันของคนลาว เช่น ขนมปังฝรั่งเศสท่อนยาว ๆ ที่เรียกว่าบาแก็ตยังเป็นที่นิยมในประเทศลาว โดยเฉพาะที่เมืองหลวงพระบาง สำหรับนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยือนเมืองหลวงพระบางน่าจะลองหาโอกาสกินอาหารที่ร้าน L’Elephant สักมื้อหนึ่ง แนะนำว่าควรจะเป็นมื้อค่ำ ร้านอาหาร L’Elephant ตั้งอยู่หน้าวัดหนองสีคูนเมือง ความจริงอยู่ไม่ไกลจากร้านส้มตำเจ้ติ๋ม ทางร้านใช้ของสด ๆ ที่หาได้ในตลาดหลวงพระบาง เช่น ผักน้ำ ไค ปลาแม่น้ำโขง กบ ไก่บ้าน นำมาปรุงเป็นอาหารตามแบบวิธีดั้งเดิมของคนฝรั่งเศส เช่น อกเป็ดอบ ขากบทอด นอกจากนี้ทางร้านอาหารยังมีอาหารลาวด้วย เมนูยอดนิยมคือ แผ่นไคทอดกินกับแจ่วบอง ลาบไก่ นักท่องเที่ยวที่ต้องการดื่มไวน์กับอาหารมื้อค่ำน่าจะถูกใจกับรายชื่อไวน์ที่มีให้ดื่มในร้าน L’Elephant
วันอาทิตย์
6 โมงเช้า – เดินตลาดเช้า
ทริปไปตลาดเช้าของเมืองหลวงพระบางเป็นรายการที่พลาดไม่ได้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว “สายกิน” และ “สายถ่ายรูป” ตลาดสดตั้งอยู่ในซอยริมวัดใหม่ บนถนนศรีสว่างวงศ์ เดินตามซอยเล็ก ๆ เข้าไปจะเจอแม่ค้านำอาหารสดมาวางขายสองข้างทาง บรรยากาศย้อนยุคตลาดสดเมืองไทยเมื่อหลายสิบปีซึ่งตอนนี้หาดูในเมืองไทยไม่ค่อยได้แล้ว แต่ละวันแม่ค้าลาวหลวงพระบางจะเอาของมาวางขายแบบง่าย ๆ ปูผ้าหรือพลาสติกลงข้างทางเดิน รอคนมาเลือกซื้อไปทำอาหาร ของที่ขายมีทุกอย่างตั้งแต่เห็ดหลากสีสัน ไก่ป่า ปลาตัวใหญ่ ๆ ที่เพิ่งเอาขึ้นมาจากแม่น้ำโขง กระรอก กบ ไคที่เก็บมากจากแม่น้ำโขงเช่นกัน รังต่อ รังแตน รังผึ้ง เขียดที่ร้อยติดกันเป็นพวง ตัวตุ่นก็มี นักท่องเที่ยวเห็นแล้วตื่นตาตื่นใจ เลือกกันไม่ถูกว่าจะซื้อหรือจะถ่ายรูปอะไรก่อนดี
10 นาฬิกา – กินมื้อเที่ยงที่ร้าน “ออกพบตก” พร้อม ๆกับเรียนรู้เรื่องผ้าทอของลาว
“ออกพบตก” เป็นศูนย์แสดงหัตถกรรม และจำหน่ายผ้าทอมือของลาว นักท่องเที่ยวที่ชอบผ้าทอสามารถเลือกซื้อสินค้าคุณภาพได้ที่ร้านออกพบตก หรือนักท่องเที่ยวคนไหนอยากจะมีประสบการณ์ทำผ้าทอมือด้วยตนเอง สามารถทดลองทำได้กับช่างทอผ้าที่ร้านออกพบตก ไม่ว่าจะเป็นการทอผ้า หรือการย้อมผ้า ที่ร้านออกพบตกมีร้านอาหารบริการนักท่องเที่ยวด้วย รายการอาหารส่วนใหญ่ปรุงแบบตะวันตก เหมาะกับมื้อเที่ยงที่ไม่ต้องใช้เวลาบนโต๊ะอาหารมากนัก จุดเด่นของร้านอาหารออกพบตกคือภาพของแม่น้ำโขง ที่มองจากร้านอาหาร ดูสงบนิ่ง สวยงาม ทรงพลัง
ข้อมูลการเดินทาง
+ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และ สายการบินแอร์เอเชีย ให้บริการเที่ยวบินตรงทุกวัน ในเส้นทางกรุงเทพมหานครและเมืองหลวงพระบาง
+ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางไปเที่ยวหลวงพระบาง คือ เดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
+ ที่พักในหลวงพระบางมีให้เลือกหลายแบบ ตั้งแต่รีสอร์ทมีชื่อ ถึงโรงแรมบูธิคเล็ก ๆ สวย ๆ ไปจนถึงเกสต์เฮ้าส์ราคาถูก นักท่องเที่ยวสามารถจองที่พักล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ได้เลย